English version: What is TJ Factsheet – 4 pages – English – Edited for printing (1) Thai version: what-is-tj-factsheet-4-pages-thai final2 เอกสารสี่หน้ากระดาษนี้จะทำให้คุณเข้าใจว่าความเป็นธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน คืออะไร ในช่วงที่ประเทศต้องตกอยู่ในความมืดมิดภายใต้เผด็จการและความขัดแย้ง การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงกว้างขวาง โดยที่ความจริงจะถูกปิดบังซ่อนเร้นและถูกบิดเบือน แม้หลังจากการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยผู้กระทำความผิดจำนวนมากยังมักได้รับการปกป้องให้ลอยนวลพ้นผิด ในหลายกรณีพวกเขายังคงอยู่ในอำนาจและใช้อำนาจในการบิดเบือนเรื่องราวของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สถาบันที่มีอำนาจหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชนก็อ่อนแอหรือพิกลพิการ ดังนั้นเพื่อที่จะสร้างประชาธิปไตยที่เสรีและมีความรับผิดชอบจะต้องมีการสอบสวนและเผยแพร่ความจริงว่าได้เกิดอะไรขึ้นและต้องนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ผู้เสียหายต้องได้รับการช่วยเหลือและเชิดชู ทั้งต้องมีการปฏิรูปกฎหมายและสถาบันต่างๆ เพื่อว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงกว้างขวางจะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก กรอบความคิดเรื่องความเป็นธรรมในระยะเปลี่ยนผ่านเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เกิดการจัดทำและนำยุทธศาสตร์ไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพกับประวัติศาสตร์ของการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงกกว้างขวาง โดยทั่วไปสามารถแบ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ด้านคือ การค้นหาความจริง การนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษ การช่วยซ่อมสร้างชีวิตและศักดิศรีของผู้เสียหาย (การชดใช้เยียวยา) และการสร้างหลักประกันว่าการละเมิดสิทธิ์เหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก (การปฏิรูปเชิงสถาบัน) ปัจจัยต่างๆเหล่านั้นต่างเชื่อมโยงและส่งผลต่อกันและกัน ดังนั้นวิธีการที่มีประสิทธิภาพประการหนึ่งคือ การพิจารณาจากองค์รวมแล้วตามมาด้วยการพิจารณาจากด้านต่างๆเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละบริบท เช่นการพิจารณาถึงความอ่อนไหวทางเพศสภาวะ (Gender) มีความจำเป็นสำหรับการทำความเข้าใจว่าการละเมิดสิทธิมนุษย์ชนนั้นส่งผลที่แตกต่างกันอย่างไรต่อผู้หญิงและผู้ชาย และทำให้แน่ใจถึงการมีส่วนร่วมของผู้ที่ด้อยโอกาสและคนชายขอบด้วยเป็นต้น
Category Archives: Newsletters
คดีระเบิดน้ำบูดู: สืบพยานจำเลยเสร็จสิ้นทั้ง14 ปาก ทนายความขอยืนแถลงการณ์ปิดคดีภายใน15วัน ศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 25 กันยายน 2561
คดีระเบิดน้ำบูดู: สืบพยานจำเลยเสร็จสิ้นทั้ง14 ปาก ทนายความขอยืนแถลงการณ์ปิดคดีภายใน15วัน ศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 25 กันยายน วันที่ 3 ส.ค.2561 ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ศาลนัดสืบพยานจำเลยคดีหมายเลขดำที่ 561/2560 เป็นวันที่ 4 ที่มีการนัดสืบพยานจำเลยเป็นวันสุดท้าย โดยในวันที่ 1 สค. มีจำเลยเบิกความฐานะพยาน 3 ปาก ในวันที่ 2 สค. จำเลยขึ้นเบิกความในฐานะพยานทั้งหมด 7 ปาก และในวันที่ 3สค.จำเลยชุดสุดท้ายเบิกความจำนวน 4 ปาก ประเด็นสำคัญในการเบิกความของจำเลยที่ทั้งสิบสี่คนอยู่ที่การถูกซ้อมทรมานขณะถูกควบคุมตัวในค่ายทหารช่วงระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2559 เพื่อให้ยอมรับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางแผนก่อเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ และ จ.สมุทรปราการ และการบังคับให้ชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพทั้งที่จำเลยได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาในชั้นสอบสวน รูปแบบการทรมานมีทั้งการช็อตไฟฟ้า การใช้รองเท้าบู๊ตทหารทุบที่หลัง การใช้มือทุบตีที่ศีรษะและลำตัว ใช้แม็คยิงที่ขาขวาเกิดบาดแผล เอาปืนจ่อที่ศีรษะ บังคับให้ถอดเสื้อผ้า ปิดตาระหว่างการสอบสวน ส่วนจำเลยที่ 6-9 ไม่ได้เบิกความเรื่องถูกซ้อมทรมาน แต่ถูกให้เซ็นรับรองเอกสารซักถามที่ระบุว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดทั้งที่จำเลยไม่ได้รู้เห็นหรือให้ถ้อยคำตามที่เจ้าหน้าที่ระบุในเอกสารContinue reading “คดีระเบิดน้ำบูดู: สืบพยานจำเลยเสร็จสิ้นทั้ง14 ปาก ทนายความขอยืนแถลงการณ์ปิดคดีภายใน15วัน ศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 25 กันยายน 2561”
คดีระเบิดน้ำบูดู[1]: สืบพยานโจทก์ปากพนักงานสอบสวนนัดสุดท้ายนาน 5 ชั่วโมง สืบพยานจำเลยนัดแรก จำเลยที่ 1 ต้องใช้ล่ามภาษามลายู-ไทย
คดีระเบิดน้ำบูดู[1]: สืบพยานโจทก์ปากพนักงานสอบสวนนัดสุดท้ายนาน 5 ชั่วโมง สืบพยานจำเลยนัดแรก จำเลยที่ 1 ต้องใช้ล่ามภาษามลายู-ไทย วันที่ (31 ก.ค.2561) ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ศาลนัดสืบพยานคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลย 14 คน ซึ่งเป็นชายชาวจังหวัดนราธิวาสและจังหวัดปัตตานีรวม 14 คน อายุระหว่าง 19-32 ปี ในข้อหาร่วมกันเป็นอั้งยี่ ร่วมกันเป็นซ่องโจร และมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย การสืบพยานในวันนี้ แบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกทนายจำเลยได้ทำการซักค้านพยานโจทก์ คือ พ.ต.ท.หญิง ดวงมณี พานนาค สารวัตร (สอบสวน) กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ซึ่งเป็นพยานโจทก์ปากสุดท้ายจากทั้งหมด 36 ปาก และช่วงที่ 2 เป็นการเริ่มสืบพยานจำเลย โดยจำเลยที่ 1 คือ นายตาลมีซีContinue reading “คดีระเบิดน้ำบูดู[1]: สืบพยานโจทก์ปากพนักงานสอบสวนนัดสุดท้ายนาน 5 ชั่วโมง สืบพยานจำเลยนัดแรก จำเลยที่ 1 ต้องใช้ล่ามภาษามลายู-ไทย”
Criminal Black Case No. 561/2560 “Budu Bomb Case”: Call for Trial Observation at Ratchada Criminal Court on 31 July, 1-3 Aug 2018
Criminal Black Case No. 561/2560 “Budu Bomb Case”: Call for Trial Observation On 31 July 2018, there will be a hearing of evidence held at Court Room No.808 at the Criminal Court in Bangkok. There will be a cross examine session of Pol Lt Col Duangmanee Phannak, a police investigator attached to the Crime SuppressionContinue reading “Criminal Black Case No. 561/2560 “Budu Bomb Case”: Call for Trial Observation at Ratchada Criminal Court on 31 July, 1-3 Aug 2018”
ขอเชิญร่วมสังเกตการณ์คดีเยาวชน14คนจากนราธิวาสและปัตตานีถูกฟ้อง ข้อหาความผิดร่วมกันอั้งยี่ ร่วมกันซ่องโจร และมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง วันที่ 31 กค., 1-3 สิงหาคม 2561 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ
ใบแจ้งข่าว เผยแพร่วันที่ 30 กรกฎาคม 2561 ขอเชิญร่วมสังเกตการณ์คดีเยาวชน14คนจากนราธิวาสและปัตตานีถูกฟ้อง ข้อหาความผิดร่วมกันอั้งยี่ ร่วมกันซ่องโจร และมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง วันที่ 31 กค., 1-3 สิงหาคม 2561 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เวลา9.00น. เป็นต้นไป ที่ฟ้องพิจารณาคดี 808ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ได้มีการพิจารณาคดีอาญา หมายเลขดำที่ 561/2560 ที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องชายชาวจังหวัดนราธิวาสและจังหวัดปัตตานีรวม 14 คน อายุระหว่าง 19-32 ปี ในฐานความผิดร่วมกันอั้งยี่ ร่วมกันซ่องโจร และมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย โดยจะเป็นการรับฟังพยานฝ่ายโจทก์เป็นนัดสุดท้าย และจะมีการให้การโดยทนายฝ่ายจำเลยเป็นนัดแรก ต่อเนื่องไประหว่างวันที่1-3 สิงหาคม2561 คดีนี้เกิดขึ้นภายหลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจสนธิกำลังตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัยย่านรามคำแหง กรุงเทพฯ และ ต.บางเสาธง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อเดือนตุลาคม 2559 เนื่องจากการข่าวของฝ่ายความมั่นคงระบุว่ามีกลุ่มบุคคลวางแผนลอบวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯContinue reading “ขอเชิญร่วมสังเกตการณ์คดีเยาวชน14คนจากนราธิวาสและปัตตานีถูกฟ้อง ข้อหาความผิดร่วมกันอั้งยี่ ร่วมกันซ่องโจร และมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง วันที่ 31 กค., 1-3 สิงหาคม 2561 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ”